Line : @audios1 ☎️TEL.097-0923959 IG : @stemcell.ig Page FB : Stemcell.FB Website : www.My-strawberry.net สินค้านำเข้าจาก USA ♨️เปิดรับตัวแทนจำหน่าย (แบบสต๊อก/ไม่สต๊อก) #สำนักเขาซมซาน

This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

Wednesday, June 21, 2017

5 เส้นทางรวยจาก The Wolf of Wall Street


The Wolf of Wall Street : คนจะรวย ช่วยไม่ได้ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดปี 2556 ซึ่งนำแสดงโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ และกำกับภาพยนตร์โดย มาร์ติน สกอร์เซซี เป็นเรื่องราวในช่วงเวลาของการล้มลุกคลุกคลานจนกว่าจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพนายหน้าขายหุ้นของนักพูดผู้สร้างแรงบันดาลใจชาวอเมริกัน นามว่า 
นอกเหนือจากความบันเทิงแบบภาพยนตร์ที่ได้ผสมผสานเรื่องราวจากความทรงจำของ จอร์แดน เบลฟอร์ท และถ้าไม่นับความเลินเล่อของเขาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้ว่ามีเนื้อหาดี ๆ สำหรับผู้กำลังมองหางานมากมาย ถ้าคุณยังไม่มีโอกาสได้ชม เราได้สรุปบทเรียนโดน ๆ 5 เรื่องที่ผู้หางานควรรู้มาเสิร์ฟคุณถึงที่แล้ว
1.ทำตัวให้เป็นเยี่ยงอย่าง!
ความสำเร็จในอาชีพการงานของคุณคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ถ้าคุณไม่ทำอะไรกับมัน คุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อย่างที่เบลฟอร์ท กล่าวไว้ว่า ‘ถ้าคุณอยากจะรวย คุณก็จะต้องตั้งโปรแกรมสมองให้เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน!’
ความสำเร็จล้วนเริ่มมาจากความคิด ทัศนคติ และทักษะของคุณ การมีเป้าหมายในชีวิตและทำทุกอย่างให้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ มีแต่จะนำคุณก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จเหล่านั้นยิ่งขึ้น เส้นบาง ๆ ระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลว ก็มาจากสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณพูด คุณสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการกำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงและใช้เวลาไปกับการเพิ่มทักษะ ประสบการณ์และการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่จำเป็น
2.ลงมือทำ!
เป้าหมายสำคัญในแต่ละวันคือการทำงานให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม! การทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นเส้นทางที่มืออาชีพทุกคนต้องทำ แต่ผลงานต่างหากที่เป็นคำตอบสุดท้าย คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจหรอกว่าคุณจะทำมันอย่างไร มันสำคัญมากกว่าถ้าคุณได้ลงมือทำจริง ๆ
การแข่งขันในตลาดแรงงานทุกวันนี้คือ การที่คุณมีสิ่งที่จะสามารถฉายแววความเป็นตัวตนของคุณให้โดดเด่น การคิดนอกกรอบจะช่วยคุณในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ทำงานในสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้เหมือนกับว่ามันเป็นธุรกิจเดียวที่คุณมีอยู่ มุ่งมั่นตั้งใจให้บรรลุถึงความสำเร็จ และทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
3.ดูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง!
คุณคงเคยได้ยินประโยคดังกล่าวมาจนเบื่อ แต่ตราบใดที่คุณยังอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยการตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก การแต่งกายที่ดูดี จะสามารถนำคุณไปสู่ความสำเร็จที่คุณอยากจะไปถึงได้
สัมภาษณ์งาน ผู้หางานที่มีคุณสมบัติดี มักไม่ได้งานโดยทันที คนที่แต่งกายดูดี มีเสน่ห์ และเรียบร้อยต่างหากที่จะได้การตอบรับที่ดีกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะเมื่อคุณแต่งกายดูดี สะดุดตาจะทำให้เราจำคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเอง!
4.ให้ความล้มเหลวเป็นแรงผลักดันที่ดี!
ไม่มีอะไรจะมีแรงจูงใจที่ดีไปกว่าความล้มเหลวอีกแล้ว เพราะมันจะทำให้คุณรู้ซึ้งถึงรสชาติแห่งความพ่ายแพ้ และคุณจะรู้สึกดื่มด่ำกับความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น ความล้มเหลวเปรียบเหมือนยากระตุ้นทางจิตใจให้คุณค้นหาสิ่งที่คุณขาดและเสริมสร้างจิตวิญญาณในการทำงานหนักเพื่อให้คุณบรรลุความสำเร็จที่คุณตั้งใจไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ธุรกิจแรกของเบลฟอร์ทคือ การขายปลาและอาหารทะเล ซึ่งมันล้มไม่เป็นท่า แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งให้เขามองหาสิ่งใหม่ ๆ ความล้มเหลวไม่ควรจะเป็นเพียงสัญญาณบอกเหตุให้เราหยุดทำอะไรบางอย่าง แต่ควรเป็นป้ายบอกทางอ้อมให้เราเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องในที่สุด แม้มันอาจจะใช้เวลาที่ยาวนานและหมดแรงได้ง่าย ๆ ถ้าแผนแรกไม่สำเร็จ ก็คิดใหม่ ทำใหม่ ต่อไปเรื่อย ๆ!
5.คิดให้เหมือนหมาป่า!
ในภาพยนตร์ได้แฝงความเชื่อที่ว่า ชีวิตคนเรามันไม่ยุติธรรมเสมอไป ยิ่งเรารู้เรื่องนี้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะเก่งขึ้นเร็วเท่านั้น โอกาสที่ดีที่สุดในที่ทำงานไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่เก่งหรือมีค่าที่สุด แต่มันจะตกไปอยู่ในมือของคนที่มีพลัง แรงผลักดัน ความทะเยอทะยานในตัวเองมากที่สุดต่างหาก ในสังคมปัจจุบัน เราจะต้องคิดอย่างฉลาด (แกมโกง) มีความเฉลียว ทะเยอทะยาน และสายตาที่เปิดกว้างมองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นิสัยของหมาป่าอาจจะฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ถ้าคุณไม่คว้าโอกาสเอาไว้ คนอื่นก็จะเป็นคนคว้าแทนคุณอยู่ดี แล้วคุณจะยอมเสียเวลากัดกินเศษซากความไร้สาระ ในขณะที่คุณสามารถจะอิ่มเอมกับอาหาร (ความสำเร็จ) อันโอชะนั้นเหรอ? ดังนั้น อย่าลืมคว้าสิ่งที่เป็นของคุณแล้วจับมันไว้ให้แน่น! คิดอย่างหมาป่า ซุ่มเงียบ และจงออกไปไล่ล่า (ความสำเร็จ)!
Share:

Friday, June 16, 2017

เข้าไทยแล้ว !! การ์ดจอตัวแรกของโลกที่มีจอ GALAX GeForce GTX 1080Ti Hall Of Fame สำหรับสาวก HOF ไม่ควรพลาด

เข้าไทยแล้ว !! การ์ดจอตัวแรกของโลกที่มีจอ GALAX GeForce GTX 1080Ti Hall Of Fame สำหรับสาวก HOF ไม่ควรพลาด


บริษัท เอสเซนตี้ รีซอร์สเซส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย GALAX Graphic Card การ์ดจอ คอเกมที่ Overclock แรงมาตั้งแต่อยู่ในกล่อง เข้าไทยแล้ว !! การ์ดจอตัวแรกของโลกที่มีจอ GALAX GeForce GTX 1080Ti Hall Of Fame สำหรับสาวก HOF ไม่ควรพลาด

GALAX การ์ดจอ คอเกม และ นักโอเวอร์คล็อก เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุด GALAX GeForce GTX 1080Ti Hall Of Fame (HOF) ซึ่งเป็นการ์ดจอตัวแรกของโลกที่มีจอมอนิเตอร์ติดอยู่บนการ์ดจอ นี่คือการ์ดจอที่ทรงพลังมากมากที่สุดตัวหนึ่งของ GALAX เท่าที่เคยมีมา Only for Better Performance 







โดยสิ่งสำคัญที่ทาง GALAX บรรจงใส่เทคโนโลยีอัดแน่นเข้าไปใน GALAX GeForce GTX 1080Ti HOF ตัวนี้
  • HOF Panel เป็นจอมอนิเตอร์แบบที่แสดงผลสถานะของการ์ดจอ ค่า GPU Clock , อุณหภูมิ , เวอร์ชั่นไดร์ฟเวอร์ และ อื่นๆ และคุณยังสามารถใส่ข้อความที่คุณต้องการลงไปได้โดยผ่านทางซอฟแวร์ Xtreme Tuner Plus
  • HOF LuminX RGB Effect สำหรับจุดที่มีไฟ HOF Crown , ช่องเสียบไฟเลี้ยง PSU , บริเวณช่องเสียบต่อภาพ คุณสามารถปรับเอฟเฟคของไฟ สีของไฟได้โดยผ่าน Xtreme Tuner Plus
  • TRIMAX COOLER ชุดระบายความร้อนแบบ 3 พัดลม พัดลมขนาด 90 มม.
  • Premium Materials มี 5 ฮีตไปป์ / Signature Choco-White PCB / PCB PureOC มี 12 Layers / ภาคจ่ายไฟแบบดิจิตอล 16+3 phase เพื่อการโอเวอร์คล็อกระดับสุดยอด / มีระบบป้องกัน G Anti-noise , Ultra Low ESR , Ultra-low noise
  • HOF POWERFUL POWER SUPPLY ทรงพลังด้วยการรับไฟได้มาก 8-Pin ถึง 3 ชุด เพื่อรองรับการโอเวอร์คล็อกแบบจัดเต็ม
  • All Digital Interface : DP 1.4 / HDMI 2.0B / DVI-D
  • ปุ่ม Hyper Boost ช่วยความเร็วของพัดลมให้ง่ายขึ้นสำหรับการโอเวอร์คล็อกด้วยปุ่มเดียว
  • ด้านหลังสวยงามด้วย HOF Back phate ช่วยให้ PCB แข็งแรงและเย็นมากขึ้น
  • HOF LuminHold Stick ไม้ค้ำการ์ดจอสุดสวยที่สามารถปรับไฟ RGB ได้ตามการ์ดจอ
  • พร้อมชุดของ Bundle ภายในกล่องมากมาย
ดู Specs เพิ่มเติมได้ที่ >> http://www.galax.com/en/graphics-card/hof/galax-geforcer-gtx-1080-ti-hof.html
สำหรับราคา GALAX GeForce GTX 1080Ti Hall Of Fame (HOF) ราคาเปิดตัว 34,500 บาท เกมเมอร์ที่สนใจสามารถหาซื้อ สั่งจองได้แล้วที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอสเซนตี้ รีซอร์สซอร์ส ตามห้าง IT ชั้นนำทั่วไป
หรือสามารถสอบถามทาง Inbox >> https://www.facebook.com/GALAXThai
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.zolkorn.com


Share:

FSP โชว์ Power Supply ระบายความร้อนด้วยน้ำ Hydro PTM+

FSP โชว์ Power Supply ระบายความร้อนด้วยน้ำ Hydro PTM+ 

อย่างที่ทราบกันดีในวิทยาศาสตร์พื้นฐานเลยครับ ก็คือวงจร Electronic กับน้ำนั้นก็ไม่ถุกกันเท่าไหร่ .. แต่ยังไงก็ตามผู้ชื่นชอบการโมดิฟายอุปกรณ์คอมนั้นก็ได้มีการนำสองอย่างนี้เข้ามาเป็นเพื่อนกันได้อย่างที่เราเห็นกันเคยชินในระบบ Liquid Cooling ที่ทุกวันนี้มีจำหน่ายกันทั่วไปแล้ว ซึ่งตรงนี้เองประสิทธิภาพของการระบายความร้อนด้วยนั้นก็ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าการระบายความร้อนด้วยอากาศทั่วๆไป แต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นมันถูกใช้กับอุปกรณ์ที่ปล่อยความร้อนสูงไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอหรือว่า CPU .. แต่ว่าตอนนี้ผู้ผลิต PSU (Power Supply Unit) ชั้นนำก็ได้เปิดตัวโปรดักส์ใหม่ของตัวเองที่เอาระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเข้ามาใช้ด้วยชื่อรุ่นว่า Hydro PTM+

ด้วยความร่วมมือระหว่าง FSP และ Bitspower แบรนด์ผู้ผลิตระบบระบายความร้อนด้วยน้ำชื่อดังระดับโลก เพื่อให้ระบบนั้นมีความปลอดภัยสูงที่สุด และทาง FSP เองก็ได้เคลมมาว่า Hydro PTM+ นี้ก็จะเป็น Power Supply รุ่นแรกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและผ่านมาตรฐาน 80 Plus Platinum และมาการผลิตแบบ Mass Produced หรือว่าผลิตในจำนวนที่มากเพื่อจำหน่ายทั่วไปนั่นเอง .. นอกจากความสามารถและการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมแล้ว ทาง FSP ก็ยังเน้นเรื่องความหล่อเหลาสวยงามด้วยการเพิ่มไฟ LED เข้าไป 
หลายๆคนตรงนี้อาจจะงงว่า ใส่ชุดน้ำเข้าไปทำไม เพื่อความเฟี้ยวแค่นั้นเหรอ ? จริงๆอันนั้นก็ส่วนนึงครับ แต่ว่าประสิทธิภาพก็ได้มากขึ้นด้วย เพราะว่าจาก Power Rating เดิมๆ ที่ 1200W เมื่อเราต่อชุดน้ำเข้าไปแล้วนั้น Power Rating ก็จะขึ้นไปที่ 1400W เลย แค่นั้นไม่พอ.. ยังมีหลากหลาย Mode การใช้งานด้วย นอกจากการเค้นพลังงานแบบเต็มที่จาก System ที่กินไฟมหาโหดแล้ว เมื่อเราไม่ได้ใช้งานตรงนั้นหรือว่ามี Load ต่ำกว่า 50% แล้วหล่ะก็ ตัว PSU นั้นก็จะสั่งหยุดการทำงานของพัดลมในตัว และตัด Power Rating ลงมาเหลือ 600W ด้วย ทำให้ได้เสียงที่เงียบสนิทเพราะไม่มีพัดลมหมุนนั่นเอง 
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นเราก็ยังไม่มีแต่อย่างใด ตอนนี้ที่รู้ก็คือ Power Supply ยี่ห้อนี้จะนำมาโชว์ในงาน Computex 2017 ที่จะจัดขึ้นในไม่ถึงอาทิตย์ต่อจากนี้ และตอนนั้นก็น่าจะมีข้อมูลเรื่องราคาออกมาด้วย แต่เตรียมใจไว้เถอะครับ มันไม่ถูกแน่นอน !
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.overclockzone.com

Share:

Microsoft เปิดตัว Surface Pro รุ่นใหม่ เรียกว่า The New Surface Pro แต่ไม่ใช่ Surface Pro 5

Microsoft เปิดตัว Surface Pro รุ่นใหม่ เรียกว่า The New Surface Pro แต่ไม่ใช่ Surface Pro 5


Microsoft ได้เปิดตัว Surface Pro รุ่นใหม่ตามที่หลายคนคาดเดากันเอาไว้ในงานที่จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่ผิดไปจากที่คิดก็คือ Surface Pro รุ่นใหม่นี้เรียกว่า The New Surface Pro แทนที่จะเป็น Surface Pro 5 

สาเหตุที่ Surface Pro รุ่นนี้ไม่เรียกว่า Surface Pro 5 อาจจะเป็นเพราะว่ารุ่นนี้เป็นการอัพเกรดสเปคเครื่องเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ทำให้ทาง Microsoft เรียกว่า The New Surface Pro เท่านั้น 

ตัวแทบเล็ตจะมีหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว (2256 x 1504) ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i7 (Kaby Lake), แบตเตอรีที่ใช้งานได้ยาวนาน 13.5 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อ 4G LTE Advance ในตัว รวมไปถึงปากกาตัวใหม่ที่ลากแล้วติดเลย ไม่ดีเลย์ และรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ
สำหรับขาตั้ง Microsoft ได้ทำการปรับแต่งให้กับ Surface Pro รุ่นนี้ด้วย ข้อต่อระบุว่าออกแบบมาใหม่ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนอุปกรณ์เสริมใหม่อย่าง Surface Dial ก็สามารถนำมาใช้กับรุ่นนี้ได้ด้วย ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่างมาตรฐานต่างก็อัพเกรดมาขายแยกเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น Pen, Type Cover ซึ่งมีรุ่นที่เป็นวัสดุ Alcantara ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นเบาที่สุดในซีรีส์ Surface Pro ด้วย โดยมีน้ำหนักราวๆ 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนราคาก็เป็นไปตามสเปค โดยผันแปรตามหน่วยความจำ และพื้นที่ในตัว ซึ่ง RAM มีตัวเลือกตั้งแต่ 4GB / 8GB / 16GB ส่วนพื้นที่ในตัวก็มี 128GB / 256GB / 512GB
ราคาเริ่มต้นถูกสุดที่ $799 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 27,500 บาท) เริ่มวางจำหน่าย 15 มิถุนายนนี้ในประเทศกลุ่มแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม แคนาดา จีน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮ่องกง ไอร์แลนด์ อิตาลี จีน เกาหลีใต้ ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และอเมริกา
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.overclockzone.com
Share:

การ์ดแรงสำหรับ Case เล็กมาแล้ว ! ZOTAC เปิดตัว GTX1080Ti Mini / ArcticStorm Mini

การ์ดแรงสำหรับ Case เล็กมาแล้ว ! ZOTAC เปิดตัว GTX1080Ti Mini / ArcticStorm Mini

 แน่นอนว่าถ้าใครคิดเรื่องการ์ดจอแรงๆที่เอาไว้เล่นเกมส์หนักๆ ภาพแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวก็ต้องเป็นการ์ดจอใหญ่ๆ กินพื้นที่เยอะๆ มีพัดลมหลายๆตัว ซึ่งมันก็ถูกแล้วครับ เพราะของแรงๆส่วนใหญ่มันก็หน้าตาเป็นแบบนั้นแหละ .. แล้วทีนี้ถ้าผู้ที่อยากได้สเป็คแรงๆ เล่นเกมส์ลื่นๆ แต่ว่าต้องการใส่เคสเล็กๆด้วยหล่ะ จะทำยังไง ?
จริงๆก็มีคำตอบครับ เพราะว่ามีบางแบรนด์ที่ผลิตการ์ดจอตัวแรงแต่ว่าใช้ PCB เล็กๆมาให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้เหมือนกัน เช่นเดียวกับ ZOTAC ที่เป็นผู้ผลิตการ์ดจอแบรนด์ดังอีกแบรนด์นึงที่มีการ์ดจอหลากหลายรุ่นให้เลือกต่อหนึ่ง Segment เช่น GTX1080Ti เองก็มีหลายๆรุ่นแล้วแต่งบประมาณและความต้องการของผู้ใช้
ล่าสุดเองก็มีการเปิดตัวมาเพิ่มเติมอีกสองรุ่นหลังจากคราวที่แล้วเปิดตัว ArcticStorm ที่เป็นการ์ดเน้นระบายความร้อนด้วยน้ำไป .. คราวนี้ก็มี ArcticStorm มาอีกเช่นกัน แต่จะเป็น ArcticStorm Mini เน้นการใช้ชุดน้ำเหมือนเดิมแต่ว่าตัวการ์ดจะมีขนาดเล็กลงกว่ามาตรฐาน Full Size อยู่มากเลยครับ / แค่นั้นไม่พอก็ยังมี GTX1080Ti Mini เปิดตัวมาอีกรุ่นด้วย ทีนี้แล้วทำให้การ์ดสองรุ่นนี้ เป็นการ์ดจอ Small Form Factor ที่แรงที่สุดที่มี ณ เวลานี้เลยแหละ
ก็เป็นที่น่าสนใจครับ ว่า ZOTAC นั้นสามารถยัด Electrical Circuit จำนวนมากของการ์ด GTX1080Ti ลงไปบน PCB ที่มีความยาวเพียง 21cm ได้ยังไง ทั้งๆที่การ์ดนั้นยังใช้ Memory แบบ GDDR5X อยู่ (ถ้าเป็น HBM2 ก็พอเข้าใจได้ เพราะว่ามันกินพื้นที่น้อยกว่า) .. ตรงนี้เองก็ทำให้เราเห็นแล้วว่าขีดจำกัดของ Form Factor นั้นไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป และในอนาคตถ้ามีการ์ดจอที่ใช้ HBM2 ก็อาจจะมีขนาดเล็กกว่านี้อีกก็ได้นะ !

การ์ด ArcticStorm Mini เองก็จะมากับ Full Cover Water Block หรือว่า Water Block เต็มใบ ระบายความร้อนให้ทุกอย่างตั้งแต่ GPU , เม็ดแรม และ Voltage Regulator Module พร้อมกับรับพลังงานผ่านช่อง PCI-E 8-Pin จาก Power Supply ซึ่งแน่นอนว่าจ่ายไฟได้เพียงพอสำหรับการเล่น Overclock มหาโหดบนชุดน้ำที่ติดมาให้
ส่วนอีกรุ่นก็จะเป็นรุ่น Dual AMP! Mini ที่ยังมากับหน้าตาที่คุ้นเคยของการ์ดจากแบรนด์ ZOTAC แต่ว่าจะมีการระบายความร้อนแบบสองพัดลม อย่างที่เห็นก็คือจะมีพัดลม 90mm สองตัว คอยเป่าอัด Heatsink ที่มีแผ่น fin เป็นอลูมิเนียม ตามแบบฉบับของการ์ดจอมาตรฐานที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ
ข้อมูลและราคาก็ยังไม่ได้มีอะไรออกมาเพิ่มเติมครับ ว่า Base Clock หรือ Boost Clock อยู่ที่เท่าไหร่ แต่ที่รู้ๆตอนนี้คือประสิทธิภาพนั้นจะไม่ด้อยไปกว่า GTX1080Ti รุ่นอื่นๆอย่างแน่นอน อันนี้ ZOTAC ได้กล่าวไว้
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.overclockzone.com

Share:

Nvidia เปิดตัว GeFore MX150 การ์ดจอสำหรับโน้ตบุคแล้ว

Nvidia เปิดตัว GeFore MX150 การ์ดจอสำหรับโน้ตบุคแล้ว



  Nvidia เปิดตัวการ์ดจอสำหรับโน้ตบุครุ่นใหม่แล้วหลังจากเป็นข่าวมาสักพัก โดยรุ่นนี้ถือว่าอัพเกรดมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง GeForce 940MX ไม่น้อย โดยบางกว่าเดิม กินไฟน้อยลง และประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยพลังงานเท่าเดิมจะได้งานที่มากขึ้น 3 เท่า

Nvidia ระบุว่า MX150 จะทำให้แอพตกแต่งภาพอย่าง Photoshop, Illustrator, Lightroom ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าการ์ดจอออนบอร์ดมาก โดยการประมวลผลประเภทเรนเดอร์อาจจะเร็วกว่า 2.5 - 4 เท่าในหลายๆ กรณี
สเปคข้างในนั้นเป็น GeForce GT 1030 มี CUDA Core 384 คอร์ ใช้กระบวนการผลิต 16 นาโนเมตร และใช้หน่วยความจำ GDDR5
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.overclockzone.com

Share:

Nvidia เปิดตัว Max-Q สำหรับเกมมิ่งโน้ตบุคบางเบา เงียบ แรง

Nvidia เปิดตัว Max-Q สำหรับเกมมิ่งโน้ตบุคบางเบา เงียบ แรง


Nvidia เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า Max-Q เพื่อโน้ตบุคเล่นเกมส์สำหรับอนาคตที่จะบางลง เงียบลง และเร็วขึ้น โดยจะมีโน้ตบุคดังกล่าวจากผู้ผลิตรายหลักๆ แทบทั้งหมด
Nvidia ระบุว่า Max-Q เป็นแผนยิ่งใหญ่ไม่ต่างจาก NASA ต้องการส่งมนุษย์ไปสู๋อวากาศ  โดยสามารถทำให้โน้ตบุคเล่นเกมส์บางลงกว่าเดิมได้ถึง 3 เท่า ขณะที่ประสิทธิภาพกลับดีขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า โดนโน้ตบุคที่ทำได้มีความหนาเพียง 18 มิลลิเมตรเท่านั้น หนาพอๆ กับ MacBook Air เลยทีเดียว
สเปคภายในของ Max-Q จะเป็น Pascal ทั้งหมด โดย Max-Q จะเป็นการร่วมออกแบบตั้งแต่ต้น ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ผลิต ทั้งตัวเครื่อง ชิปกราฟฟิค ไดร์เวอร์ และระบบระบายความร้อน เพื่อให้ประสิทธิภาพการันตีได้ว่าแรงจริง เงียบจริง เย็นจริง แน่นอนว่ารุ่นสูงสุดที่ใช้ Max-Q คือ Nvidia GeForce GTX 1080
Nvidia WhisperMode Technology เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ถูกเปิดตัวด้วยกัน โดยจะเน้นการทำให้โน้ตบุคทำงานได้เงียบกว่าเดิมขณะเล่นเกมส์ โดยจะคอยตรวจสอบเฟรมเรตที่ได้ และปรับระดับการทำงานของพัดลมและการ์ดจอ
ถ้าถามว่าจะมีการ์ดอะไรบ้างในโน้ตบุคที่ใช้ Max-Q คำตอบก็คือ GeForce GTX 1080, GTX 1070 และ GTX 1060 โดยจะเริ่มเห็นโน้ตบุคประเภทนี้ตั้งแต่ 27 มิถุนายนเป็ฯต้นไป มีตั้งแต่ยี่ห้อที่คุ้นเคย Acer, Alienware, Asus, Gigabyte, HP, Lenovo, MSI ไปจนถึงแบรนด์ที่ทำตลาดเฉพาะต่างประเทศอย่าง Aftershock, Celno, Dream Machine, ECT, Hasee, LDLC, Machenike, Maingear, Mechrevo, Multicom, Origin PC, PC Specialist, Sager, Scan, Terrans Force, Tronic'5 และ XcoticPC
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.overclockzone.com
Share:

Microsoft เปิดตัว Xbox One X คอนโซลตัวใหม่มาพร้อม GPU 6 Teraflop

Microsoft เปิดตัว Xbox One X คอนโซลตัวใหม่มาพร้อม GPU 6 Teraflop

Game : Microsoft เปิดตัว Xbox One X คอนโซลตัวใหม่มาพร้อม GPU 6 Teraflop แสดงผลได้บนความละเอียด 4K 60fps !!  ในงาน E3 เมื่อปีที่แล้วทาง Microsoft เผยว่าจะมีการเปิดตัวเครื่องคอนโซลใหม่ในชื่อตอนแรกว่า Project Scorpio ล่าสุดในงาน E3 2017 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดตัวเจ้าเครื่องใหม่นี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยใช้ชื่อทางการว่า Xbox One X ซึ่งมาพร้อมขุมพลังแบบใหม่ เร็ว และแรงขึ้นกว่าเดิม 

รูปทรงตัวเครื่องมาในทรงคล้ายกับ Xbox One S แต่ใช้โทนสีหลักเป็นสีดำ และมีความบางที่ลดลงมาเหลือ 50 มม. (ตอน Xbox One S 60 มม.) 

สเปคภายในอย่างที่เคยมีบอกไว้ก่อนหน้านี้ในงานรอบที่แล้ว Xbox One X มาพร้อมขุมพลังตัวใหม่ CPU AMD Jaguar Custom 8 Core คล็อก 2.3GHz , GPU ประมวลผลกราฟิกได้ 6 Teraflop คล็อกที่ 1.172GHz , แรม 12GB GDDR5 , ความจุ 1TB และมีไดร์ฟ UHD Blu-Ray ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น Xbox One X จะสามารถแสดงผลตัวเกมได้ที่ความละเอียด 4K UHD ถึง 60fps (ในเกมหลักๆ) เลยทีเดียว อย่างในงานก็มีรายชื่อเกมฟอร์มยักษ์มากมายที่รองรับความละเอียดระดับนี้ อาทิ Forza Motorsport 7 , Metro: Exodus , Assassin's Creed: Origins , Middle Earth: Shadow of War หรือ Anthem เป็นต้น นอกจากเกมใหม่ๆที่กำลังจะลงให้เล่นเร็วๆนี้แล้ว เกมที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็จะมีการอัพเกรดให้รองรับระบบ 4K แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย อาทิ Gears of War 4 , Forza Horizon 3 , Halo Wars 2 , Ghost Recon: Wildlands , Resident Evil 7 และ Rocket League เป็นต้น Xbox One X จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้กับราคาค่าตัว $499 หรือราวๆ 17,000 บาทครับผม :D ขอบคุณแหล่งที่มาจาก :http://www.techxcite.com 
Share:

รายละเอียดและผลเทสท์ AMD Threadripper ตัวท๊อป 16-Core โผล่บน GeekBench

รายละเอียดและผลเทสท์ AMD Threadripper ตัวท๊อป 16-Core โผล่บน GeekBench


Threadripper เองก็เป็นกระแสที่มีการพูดถึงบ่อยมากในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะว่าแบรนด์ AMD ก็เพิ่งเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ที่กลับมากู้ชื่อเสียงแบรนด์ของตัวเองอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้คู่แข่งกินตลาดระดับบนมาอย่างยาวนาน .. ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัว Ryzen ไป ก็มีกระแสตอบรับดีพอสมควร และตอนนี้ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับตัวท๊อปสุดอย่าง Threadripper ที่จะมาเร็วๆนี้ ส่วนเรื่องที่คนถกเถียงกันก็คือมันจะแรงจริง และ จะเจ๋งพอที่จะตบฝั่งคู่แข่งได้หรือไม่ ?
หลังจากที่มีข่าวลือนู่นนี่มาซักพักใหญ่ๆ ตอนนี้ก็มีออกมาอีกหนึ่งข่าวครับ แต่จะเป็นข่าวหลุดแทน .. โดยที่ล่าสุดแล้วก็มีข้อมูลโผล่มาถึงตัวท๊อปตระกูล Threadripper 16-Core นั้นว่าจะใช้ชื่อ Ryzen Threadripper 1950X ไม่ใช่ 1998X ที่เคยมีพูดถึงกันไปก่อนหน้า / ข้อมูลตรงนี้ก็มาจากโปรแกรมที่ชื่อว่า GeekBench โดยใช้ร่วมกับ Mainboard จากทาง ASRock รุ่น X399 Professional Gaming จับคู่กับ Memory DDR4 ความเร็ว 2133MHz ขนาด 16GB แต่ว่าไม่ได้มีข้อมูลบอกว่าวิ่งเป็นแบบ Dual Channel หรือ Quad Channel ... ยังไงก็ยังไม่ต้องตกใจนะครับ ว่าทำไมบัสแรมวิ่งแค่ 2133MHz เอง นั่นไม่ใช่บัสสูงสุดของ Ryzen แต่อย่างใด น่าจะเป็นการเอามาใส่ทดลองเฉยๆ เพราะว่าบัส 3200MHz Quad Channel ก็น่าจะเอามาใช้ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีกว่านี้ / ส่วน Clock Speed ของ 1950X ในโปรแกรมก็ขึ้นมาที่ 3.4GHz ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็น Speed มาตรฐาน
ว่ากันเรื่องประสิทธิภาพบ้างครับ เจ้า Threadripper 1050X นั้นก็ได้คะแนนแบบ Single-Thread ไปที่ 4,167 คะแนน ส่วนทางด้าน Multi-Thread ก็ทำคะแนนได้ที่ 24,539 คะแนน และเมื่อเอาคะแนนตรงนี้มาวิเคราะห์ดู ก็จะเห็นว่า CPU 16-Core จากทางคู่แข่งอย่าง Intel Xeon E5-2697A ที่มี 16-Core 32-Thread ของสถาปัตยกรรม "Broadwell" นั้นทำคะแนนได้ดีกว่าที่ 30,450 คะแนน สำหรับ Multi-Thread ถึงแม้ว่า Single-Thread ของ Intel จะทำได้เพียง 3,651 คะแนนก็ตาม .. ถ้าให้เดาว่าทำไม AMD ยังสู้ไม่ได้ตรงนี้ก็น่าจะเป็นเพราะการ Setup ที่ยังไม่ลงตัวหรือ Memory ยังวิ่งได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ (RAM ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Threadripper)  

ยังไงก็คงต้องรอดูของจริงกันดีกว่าครับ อดใจรอกันอีกไม่นาน เพราะว่ากำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Threadripper นั้นจะอยู่ช่วงราวๆปลายเดือนหน้านี่เอง (หวังว่าคงไม่มีเลื่อนนะ) 
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.overclockzone.com 

Share:

อัพเดทข้อมูล การ์ดจอสำหรับสายขุด จาก NVIDIA "GP106-100" และ "GP-104-100" เปิดตัวเร็วๆนี้

อัพเดทข้อมูล การ์ดจอสำหรับสายขุด จาก NVIDIA "GP106-100" และ "GP-104-100" เปิดตัวเร็วๆนี้


กระแสการขุดพวก Cryptocurrency นี่ก็เรียกได้ว่ามาแรงมากหลังๆนี้ โดยเฉพาะยิ่งเดือนที่ผ่านมานี่ทะลุเป้ากันไปเลย การ์ดจอขาดตลาดกันอย่างหนักหรือหลายๆร้านก็เห็นเป็นโอกาสทางธุรกิจจับ Bundle การ์ดจอขายพร้อม Component อื่นๆกันซะเลย แค่นั้นไม่พอราคามือสองบางทีโดดแซงมือหนึ่งที่ไม่มีของกันไปแล้ว หรือไม่ถ้ามีของก็ราคาขึ้นกันอย่างหนักหน่วงไปเลยครับ .. พูดกันตรงๆคือตอนนี้ตลาดของ Hardware Component ปั่นป่วนกันไปหมดทั้ง การ์ดจอ, Mainboard, Power Supply และอื่นๆอีก อย่างประโยคนึงที่ว่าในยุคที่ทองนั้นเป็นที่ต้องการของตลาด คนขายอุปกรณ์ขุดนั่นแหละจะเป็นคนรวยครับ .. เหมาะกับข่าวนี้เลย เพราะว่าล่าสุดมีข้อมูลโผล่ออกมาว่าทาง NVIDIA นั้นจะมีการ์ดจอสำหรับสายขุด Cryptocurrency โดยเฉพาะ โดยจะใช้สถาปัตยกรรม Pascal เช่นเดียวกับการ์ดจอ Gaming ที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน / โดยรหัส Codename ที่จะเอามาใช้คือ GP106 และ GP104 เหมือนเช่นเดียวกับ GTX1060 และ GTX1080 

เริ่มกันที่รายละเอียดตัวแรก "P104-100" หรือเทียบเคียง GeForce GTX1080 มากับ Memory แบบ 8GB GDDR5X และราคาเริ่มต้นที่ $350 หรือหนึ่งหมื่นบาทต้นๆเท่านั้น ! / ตัวนี้ก็จะมากับพื้นฐานเดียวกับ GTX1080 เลยแต่ว่าจะมี Efficiency ที่สูงกว่าและมีการปรับแต่งมาสำหรับการทำ Crypto Mining โดยเฉพาะ .. ค่ามาตรฐานของตัวการ์ดเลยก็จะมี Base Clock อยู๋ที่ 1607MHz , Boost Clock ที่ 1733MHz และ Memory แบบ GDDR5X 10Gbps พร้อม 256-bit Bus Interface / การเชื่อมต่อนั้นจะทำผ่าน 8-Pin จาก Power Supply เพียงหนึ่งหัว และค่า TDP จะอยู่ที่ 180W ..  เรื่องราคาอย่างที่ว่าครับ เริ่มที่ $350 สำหรับตัวมาตรฐาน และถ้าเป็นการ์ด Custom ก็จะมีราคาเพิ่มเติมขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังไงก็ต้องถูกกว่าตัว GTX1080 มาตรฐานที่เปิดราคามา $499 แน่นอน - สุดท้ายก็คือประสิทธิภาพของเจ้าการ์ดใบนี้ ที่คาดว่าจะทำ Mining Rate ได้ที่ 60 MH/s จากการ Modify VBIOS เล็กน้อย


อีกตัวนึงก็คือ "P106-100" หรือรุ่นเทียบเคียง GTX1060 มากับ Memory แบบ GDDR5 ขนาด 6GB ราคาเริ่มต้นที่ $200 หรือราวๆ หกพันบาทปลายๆ / เช่นเดียวกับตัวที่ว่าไปเมื่อกี้ มันก็จะมีสเป็คใกล้เคียงกับตัวเทียบเคียงจากตระกูล Gaming แต่จะมีการ Tweak ให้เข้ากับการใช้งานที่ตรงจุดอย่าง Crypto Mining มากขึ้น .. ค่า Base Clock จะอยู่ที่ 1506MHz , Boost Clock ที่ 1708MHz และ Memory GDDR5 8.0Gbps พร้อม 192-bit Bus Interface / การจ่ายพลังงานจะทำผ่านหัว 6-Pin หนึ่งหัว ค่า TDP อยู่ที่ 120W ราคานั้นจะถูกกว่าตัวปกติราวๆ $50 (ตัว Gaming ราคาเริ่มที่ $249 แต่ตัว Mining นี่จะเริ่มที่ $200) ส่วนทางด้านการ์ด Custom จากแบรนด์ต่างๆนั้นก็จะราคาแพงขึ้นตามลำดับและฟีเจอร์ 

สิ่งที่ลดลงมาอย่างเห็นได้ชัดเลยเมื่อเทียบกับตัว Gaming ก็คือเรื่องของประกัน ที่จะลดลงมาเหลือ 90 วัน หรือ 3 เดือน (น่าจะรู้ว่าการใช้งานแบบนี้คือการถลุงการ์ดอยู่แล้ว), ประสิทธิภาพต่อการกินพลังงานที่ดีกว่าการ์ดตัว Gaming, และการ์ดสายขุดเหล่านี้จะไม่มีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อจอ เพราะฉะนั้นก็ต้องเอาไว้ขุดอย่างเดียว / ส่วนแผนการเปิดตัวนั้นก็น่าจะเป็นวันที่ 19 ที่จะถึงนี้ (สำหรับตัวการ์ดของ NVIDIA) และอาจจะเปิดตัวแตกต่างวันกันไปสำหรับผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ  
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.overclockzone.com 
Share:

Game : Sony เปิดตัว PS4 Limited Edition สีใหม่ ทองและเงิน วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด !!

Game : Sony เปิดตัว PS4 Limited Edition สีใหม่ ทองและเงิน วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด !!

Game : Sony เปิดตัว PS4 Limited Edition สีใหม่ ทองและเงิน
วางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด !!

เห็นครั้งแรกแล้วต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียวสำหรับ PS4 เวอร์ชั่นพิเศษที่ทาง Sony เพิ่งจะเปิดตัวมาสดๆร้อนๆ รอบนี้ไม่ได้มีลวดลายจากเกมดังมาแปะอยู่ด้วยแต่ตัวเครื่องพิเศษนี้จะมาพร้อมกับสีทอง และสีเงินสุดอลังการ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายแบบจำนวนจำกัดในช่วงปลายเดือนนี้กับประเทศโซนอเมริกากับยุโรป



ทั้ง 2 โมเดลนี้จะมีความจุที่ 500GB มาพร้อมจอย Dualshock 4 สีเดียวกับตัวเครื่องมา 1 อันในกล่อง นอกจากนี้ทาง Sony ยังเปิดตัวแคมเปญใหม่ "Days of Play" ที่ร่วมกับทางตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในอเมริกาและแคนาดา ลดสินค้าของทาง Playstation ทั้งฮาร์ดแวร์ , ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆเพื่อขอบคุณเหล่าเกมเมอร์ที่ร่วมสนับสนุน PS4 เป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่งแคมเปญนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9-17 มิ.ย.

 โดยในวันแรกของแคมเปญนี้จะมี PS4 สีทองรุ่น 1TB มาวางจำหน่ายแบบ Limited ในราคาค่าตัว $249.99 (ราวๆ 8,500 บาทเท่านั้น) ส่วนสีเงินยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าจะมีโปรโมชั่นเช่นนี้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ PS4 Limited Edition 2 สีใหม่จะมีวางจำหน่ายในประเทศโซนอื่น (รวมถึงไทย) ด้วยไหม คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
**อัพเดทเพิ่มเติม** ทาง Playstation Asia ได้ออกมาอัพเดทแคมเปญ Days of Play เรียบร้อย โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9-21 มิ.ย.นี้ พร้อมเผยราคา PS4 สีพิเศษ ทองและเงินแล้วว่าจะอยู่ที่ 11,790 บาท นอกจากนี้ยังมีลดราคาเกมใน PS Store สูงสุดกว่า 75% ไม่ว่าจะเป็น Horizon Zero Dawn, Final Fantasy XV เป็นต้นอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งก์นี้เลย 
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: http://www.techxcite.com
Share:

Creative เปิดตัวซาวด์การ์ดสำหรับเกมมิ่ง มีไฟ RGB LED ในตัว

Creative เปิดตัวซาวด์การ์ดสำหรับเกมมิ่ง มีไฟ RGB LED ในตัว


Creative เปิดตัว BlasterX AE-5 ซาวด์การ์ดสำหรับเกมมิ่ง โดยรองรับระบบเสียง 122dB 32-bit/384kHz ESS Sabre™ DAC สามารถขับหูฟังระดับ 600 Ohm ได้สบายๆ รองรับการประมวลผลระดับ Audiophile ด้วยระบบประมวลผลเสียงของ Creative Sound Blaster ที่พัฒนาขึ้นเอง
แน่นอนว่าเมื่อออกมาเป็นอุปกรณ์สำหรับเกมมิ่ง ตัวการ์ดจะมาพร้อมกับ RGB LED เพื่อตกแต่งให้สวยงาม ไม่ต้องไปซื้อไฟเพิ่มให้เสียเงิน โดยเป็นผลงานของ Aurora Reactive Lightning System ที่เป็นหน่วยงานของ Creative เช่นกัน มีไฟทั้งหมด 4 ชุด ชุดละ 10 ดวงสามารถแสดงสีได้ 16.8 ล้านสี
ระบบเสียงนั้นใช้ Quad-core Sound Core3D DSP และ 12dB ESS Sabre-Class DAC โดยทาง Creative ระบุว่าจะทำให้เสียงชัดใสกว่าระบบเสียงธรรมดาๆ ของเมนบอร์ด 32 เท่า สามารถเล่นเพลง 32-bit/384kHz แบบ Lessless ได้สมจริงทั้งเกมส์ หนัง และเพลง
ตัวการ์ดรองรับลำโพง 5.1 และหูฟังแบบ 7.1 โดยเสียบใช้งานผ่านพอร์ต PCIe ด้านหลังมี Output ค่อนข้างมากเหมาะแก่ Audiophile
สุดท้ายนี้ยังมีรุ่นพิเศษชื่อว่า Sound VlasterX AE-5 Pure Edition โดยจะมีไฟน้อยกว่า แต่ละแถวจะมีไฟ LED เพียง 4 ดวงเท่านั้น เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่ายและไม่ได้ใส่ไจจะต้องมีไฟบนการ์ดนัก
ราคารุ่นปกติ Sound BalsterX AE-5 จะอยู่ที่ 149.99 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวางจำหน่ายกรกฏาคมนี้ ส่วน Sound BlasterX Ae-5 Pure Edition ที่ไฟน้อยกว่าจะอยู่ที่ 179.99 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวางจำหน่ายสิงหาคม
ขอขอบคุณที่มาของข่าว: https://www.overclockzone.com
Share:

Blog Archive

Total Pageviews

Facebook FANPAGE